เอื้องสามปอย

 

     ปอย เป็นคำพื้นเมืองของชาวเหนือ ซึ่งใช้เรียกงานประเพณีต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับงานบุญ ในฤดูของงานปอยนั้นมักจะ จัดขึ้นในช่วงต้นของฤดูร้อนและในบางครั้งอาจ ยาวติดต่อกันเป็นเวลาหลายเดือน ซึ่งเป็นช่วงที่กล้วยไม้ชนิดหนึ่งให้ ดอกผลิบานส่งกลิ่นหอมอบอวนอยู่พอดี หญิงสาวชาวเหนือจึงเด็ดดอกของกล้วยไม้ที่หอมรัญจวนนี้ นำมาเหน็บ ประดับติดไว้กับมวยผมของตน กล้วยไม้ชนิดนี้จึงถูกขนานนามโดยชาวเหนือว่า สามปอย ซึ่งมีความหมายคือ เอื้อง อันงดงามที่เบ่งบานได้ยาวนานตลอดยามงานปอยทั้งสามฤดูของพวกเขานั่นเอง
     สามปอยเอื้องเมืองเหนือที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของกลิ่นหอมเย้ายวน มันจึงเป็นกล้วยไม้ที่ได้รับความนิยมอย่าง แพร่หลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ในต่างประเทศสามปอย และลูกผสมจากสามปอยเป็นกล้วยไม้สีเหลืองยอดฮิต ติดตลาดรองจากฟ้ามุ่ยและลูกผสมของฟ้ามุ่ย และสายพันธุ์แท้นี้ก็ยังมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง มันเป็นที่จับตา มองของเหล่านักเลี้ยงกล้วยไม้ต่างชาติหลายคน เหล่าผู้คนแดนตะวันตกจึงต่างพากันอิจฉาเมืองร้อนอย่างไทยเรา ที่มีสามปอยหลากหลายสายพันธุ์ไว้ครอบครอง

 

     ผมได้เดินทางไปสืบเสาะหาสามปอยหลากหลายพื้นที่ และได้ ฟังเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับสามปอยจากนักเลี้ยงกล้วยไม้ ระดับเซียนสามปอยเก่าแก่หลายคน หนึ่งในนั้นคือคุณชิเนนทร เซียนสามปอยที่มีชื่อเสียงในเชียงใหม่มายาวนานมากกว่า ๕๐ ปี ท่านได้เล่าเรื่องความหลังเกี่ยวกับสามปอยและแยกลักษณะสาม ปอยแต่ละสายพันธุ์ให้ผมฟัง

     สามปอยนก หรือที่ถูกเรียกในนาม สามปอยหางปลา เป็นสามปอยที่มีขนาดเล็กที่สุด กลีบดอกทั้งห้ากลีบเล็กเรียวและส่วนกลีบดอกที่ดูคล้ายปีกนั้นบิดลู่ ราวกับนกที่กำลังโผบิน พื้นดอกนั้นหากเพ่งดูดี ๆ แล้วบางต้นจะพบลายตารางที่เรียกว่าลายสมุกอยู่ สามปอยชนิดนี้มีกลิ่นหอมเบา ๆ เท่านั้น เมื่อลองมองมาที่ปากของดอกสามปอยชนิดนี้จะพบว่าที่ปลายสุดของปากจะมีลักษณะ คล้ายกับหางปลา และเมื่อลองไล่ย้อนไปตรงโคนของปากจะพบสีชมพูเรื่อ ๆ อยู่ ดอกของพวกมัน มีทั้งสีน้ำตาลแดง สีแดงสด และสีเขียวหรือเหลือง ซึ่งในศัพท์นักเลี้ยงกล้วยไม้เรียกชนิดที่มีสีเขียวนี้ว่า "เผือก" ก้านช่อของ สามปอยนก นั้นยาว แต่ดอกที่อยู่บนก้านช่อนี้จะห่างจากกันค่อนข้างมาก ในก้านช่อจะประกอบไปด้วยดอกเล็ก ๆ ราว ๆ ๑o-๒o ดอก "ลักษณะที่ดีของ สามปอยนก จะต้องมีดอกที่ถี่ช่อแน่น ก้านดอกสั้นกว่าปรกติ หากเป็นไปได้มีขนาด ดอกที่ใหญ่ด้วยจะยิ่งดีเลิศ คุณชิเนนทรกล่าว

 

 

      เนื่องจาก สามปอยนก หรือ สามปอยหางปลา นั้นมีขนาดเล็ก สามปอยชนิดนี้จึงไม่ค่อยได้รับการพัฒนาสายพันธุ์เท่าที่ควร จึงไม่มีลูกผสมที่เกิดจากสามปอยชนิดนี้

สายน้ำครั่ง Dendrobium parishii

 

     สายน้ำครั่ง หรือ สายน้ำครั่งสั้น จัดอยู่ในสกุลหวาย และเป็นหวายของไทยเรานี่เองครับ เขตกระจายพันธุ์ สายน้ำครั่ง นั้นกว้างขวางมากตั้งแต่มลฑลไฮหนานตัดผ่านประเทศไทยยาวลงไปถึงเวียดนามเลยทีเดียวครับ เนื่องจากมีเขตกระจายพันธุ์ที่กว้างขวางนี่เอง สายน้ำครั่ง จึงเป็นกล้วยไม้ที่พบเห็นได้ทั่วไป ปัจจุบันในประเทศไทย สายน้ำครั่ง มีไม่มากแล้ว จึงมีการลักลอบนำ สายน้ำครั่ง มาจากเพื่อนบ้านของเราเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น สายน้ำครั่ง ที่เห็น ๆ เป็นกล้วยไม้กระสอบนั้นก็ถูกลักลอบนำเข้ามาจากทางเพื่อนบ้านเรานั่นเองครับ
     สีสันของ เอื้องสายน้ำครั่งสั้น ตามลักษณะทั่วไปแล้ว สายน้ำครั่ง มีเพียงสีเดียวเท่านั้นคือสีม่วงหรือ สีชมพูอ่อนๆ ไปถึงม่วงเข้ม แต่เราก็ยังพบ สายน้ำครั่ง ที่มีสีสันแปลกตาอีกหลากหลายสีเช่น สีขาวล้วน ปากสีดำกลีบดอกขาว ปากสีแดงพื้นดอกขาว ปากสีส้มพื้นดอกขาว และหูดอกขาวนอกนั้นสีม่วง เป็นต้น สีเหล่านี้เราเรียกว่า Semi alba ซึ่งหมายถึง กึ่งเผือก นั่นเองครับ สายน้ำครั่ง เหล่านี้จะเป็น สายน้ำครั่ง ที่

พิการสี คือไม่สามารถมีสีได้ตามปกติ เหมือน สายน้ำครั่ง ธรรมดา มันจึงพิเศษกว่า สายน้ำครั่ง ทั่วไปแน่นอนว่า ราคาของพวกมันก็พิเศษขึ้นไปด้วยเช่นกัน


ฤดูกาลให้ดอก ของ สายน้ำครั่ง จะอยู่ระหว่างช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ - ต้นเดือนพฤาภาคม และช่วงก่อนให้ ดอกเรามักจะพบว่า สายน้ำครั่ง จะพากันทิ้งใบเหลือแต่ลำว่างเปล่า ไม่ต้องตกใจครับ หากพบว่า สายน้ำครั่ง ทิ้งใบ ให้เตรียมตัวลุ้นดอกกันได้เลย ลักษณะการทิ้งใบจะแตกต่างไปตามแต่วิธีการเลี้ยงของแต่ละคน หากไม่รดน้ำเลย สายน้ำครั่ง จะทิ้งใบไวมาก และทิ้งใบได้ตั้งแต่ต้นปีเลยทีเดียว แต่หากเป็นคนชอบรดน้ำมาก ๆ สายน้ำครั่ง จะ สามารถคงใบอยู่ไว้ได้จนถึงวันมีดอกได้เลย ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าชอบเห็นดอกพร้อมใบหรือว่าดอกอย่างเดียวละครับ

 

การปลูกเลี้ยงเอื้องสายน้ำครั่ง เนื่องจาก สายน้ำครั่ง เป็นกล้วยไม้เมืองร้อนอยู่แล้ว การปลูกและ การดูแลจึงไม่ยากนัก เราสามารถปลูกโดยการนำไปติดกับขอนไม้ หรือนำลงปลูกกับกระเช้าก็ได้ครับ ปลูกติดขอนไม้ : ให้นำ สายน้ำครั่ง ที่ได้มา มัดติดกับขอนไม้โดยมีกาบ มะพร้าวที่แช่น้ำทิ้งไว้แล้วอย่างน้อย 2 คืน ขั้นระหว่างกลางเป็นดั่ง หมอนรองระหว่างรากกับขอนไม้ กาบมะพร้าวจะช่วงเก็บความชื้น ทำให้รากของ สายน้ำครั่ง แตกตาใหม่เร็วกว่าไม่ใส่อะไรเลยครับ ปลูกลงกระเช้า : เช่นเดียวกับติดขอนไม้ ควรมีเครื่องปลูกบ้าง หาก เป็นกระถางก้นลึกให้ใส่ถ่านลงไปก่อน โดยตัดก้อนถ่านเป็นก้อน

สี่เหลี่ยมเหมือนลูกเต๋า วางให้เป็นระเบียบด้านล่าง แล้วจึงนำกาบมะพร้าว หรือ รากชายผ้า ปลูกหนีบรากของ สายน้ำครั่ง อีกที ที่เราไม่ใช้กาบมะพร้าวทั้งหมดนั้นก็เพราะว่ากระถางก้นลึกจะเก็บความชื้นได้เยอะมาก อาจทำ ให้ สายน้ำครั่ง เน่าได้ในฤดูฝน หรือ ในกรณีที่เรารดน้ำมากเกินไปนั่นเอง

TIP : หากเราได้ออกขวด สายน้ำครั่ง ละก็ ให้ลองนำรากช้ายผ้าปลูกโดยขึ้นกระเช้า 4นิ้ว เลยไม่ต้องหนีบนิ้ว จะพบ ว่า ลูก สายน้ำครั่ง จะเติบโตรวดเร็วกว่า สายน้ำครั่ง ที่หนีบนิ้วมาก ทั้งนี้เนื่องจากเอื้อง สายน้ำครั่ง ชอบเครื่องปลูกที่ มีความชื้นและฮิวมัสสูง มันจึงเติบโตได้ดีกับรากชายผ้าสีดานั่นเองครับ
เมื่อใกล้ถึงฤดูให้ดอก รากชายผ้าจะเก็บความชื้นค่อนข้างสูง ให้ระวังอย่ารดน้ำมากมิเช่นนั้น ดอกจะออกทั้ง ๆ ที่มี ใบติดอยู่ ทำให้ดูไม่สวยงาม ให้เรางดน้ำบ้างวันเว้นวัน ปล่อยแห้งบ้าง เพื่อให้ทิ้งใบไปตามปกติของ สายน้ำครั่ง ทั่วไป ปุ๋ย : ไม่มีสูตรตายตัว ขึ้นอยู่แต่ละคนว่าจะให้ขนาดไหนครับ ที่ orchidtropical รดปุ๋ยหลัก ๆ เป็นสูตรเสมอแล้วสลับ กันไป เช่น อาทิตย์ที่หนึ่ง สูตรเสมอ อาทิตย์ที่สอง ตัวกลางสูง อาทิตย์ที่สาม สูตรเสมอ อาทิตย์ที่สี่ตัวท้ายสูง สลับ มั่วไป ๆ มา ๆ บางทีก็ลืมรด กลางสูงสองสัปดาห์ซ้ำกันไปเลยครับ !
***สำคัญที่สุด คือ ถ้าเราขยันให้ปุ๋ยทุกสัปดาห์ตามปริมาณที่เหมาะสมเป็นประจำไม่ขาดไม่เกิน ไม่ว่าจะเป็น สาย น้ำครั่ง หรือ กล้วยไม้ชนิดได ๆ ก็ตาม ก็จะให้ดอกตรงตามฤดูและพรั่งพลูสวยงามทุกชนิดครับ ไม่เชื่อลองดูได้ครับ ผมได้ทดลองไม่รดปุ๋ยตลอด 1 ปี พบว่ากล้วยไม้ให้ดอกน้อยลง ไม่ตรงฤดูกาล และสีสันอ่อนลง ลำต้นบอบบางลง ต่างจากปีที่รดปุ๋ยเป็นประจำทุกสัปดาห์ ดังนั้น เพื่อน ๆ ที่อยากทดลองงดปุ๋ยแนะนำว่าอย่าเชียวครับ เนื่องจากผม เป็นหนูทดลงอให้แล้ว ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย รดปุ๋ยต่อไปเถอะนะครับ เพื่อดอกไม้ที่สวยงามยามฤดูผลิบาน
กล้วยไม้ กับ Cites

 

ไซเตส (CITES) คือ อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์ (Convention on lnternationalTradein Endangered Species of Wild Fauna and Flora)
      การ อนุรักษ์เป็นการจัดการใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อให้ได้ผลประโยชน์ สูงสุดและยั่งยืนที่สุดที่สามารถทำได้ และควรคุ้มครองไว้เพื่อประโยชน์ของชนรุ่นนี้และอนุชนรุ่นต่อไป ดังนั้นประชาชนและประเทศต่างๆ สมควรเป็นผู้ให้ความคุ้มครองสัตว์ป่าและพืชป่าของตนดีที่สุด รวมทั้งความร่วมมือระหว่างประเทศเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการคุ้มครองสัตว์ป่าและพืชป่าบางชนิดเพื่อไม่ให้เกิดการใช้ประโยชน์ เกินสมควร จากการค้าระหว่างประเทศ และประเทศภาคีในอนุสัญญาฯ จึงตระหนักถึงคุณค่าที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลาของสัตว์ ป่าและพืชป่าในด้านสุนทรียภาพ วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม การพักผ่อนหย่อนใจ และเศรษฐกิจ อนุสัญญาฯ ได้กำหนดกรอบการปฏิบัติระหว่างประเทศในการทำการค้าชนิดพันธุ์ที่กำลังจะสูญ พันธุ์ โดยกำหนดให้ประเทศภาคีที่เป็นผู้ส่งออกและประเทศผู้นำเข้ามีความรับผิดชอบ ร่วมกันในการปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
      สาเหตุของ การมีอนุสัญญาไซเตส เนื่องมาจากปริมาณและมูลค่าการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าทั่วโลกมีปริมารและ มูลค่ามหาศาลมีผลโดยตรงและโดยอ้อม ต่อประชาชนในธรรมชาติทำให้ลดลงอย่างรวดเร็วจนบางชนิดใกล้จะสูญพันธุ์ มีการลักลอบทำการค้ารองลงมาจากการค้ายาเสพติด เป้าหมาย & เจตนารมณ์ของอนุสัญญาไซเตส เพื่อต้องการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์ป่าและพืชป่าในโลกเพื่อประโยชน์แห่งมวล มนุษย์ชาติของชนรุ่นนี้ และอนุชนรุ่นต่อไปโดยเน้นทรัพยากรสัตว์ป่าและพืชป่าใกล้จะสูญพันธุ์หรือถูก คุกคามจนอาจเป็นเหตุให้สูญพันธุ์ได้ในอนาคตโดยสร้างเครือข่ายทั่วโลกในการ ควบคุมการค้าระหว่างประเทศ ทั้งสัตว์ป่าและพืชป่าตลอดจนผลิตภัณฑ์

กล้วยไม้ทุกชนิดจัดว่าเป็นพืชอนุรักษ์ตามพระราช บัญญัติพันธุ์พืช พศ. 2518 ประเทศไทยมีความหลากหลายพืชในวงศ์กล้วยไม้เป็นจำนวนมาก มีมากถึง 174 สกุล ประมาณ 1,236 ชนิด ปัจจุบันมีผู้นิยมปลูกเลี้ยงเพื่อการค้ามากขึ้น บางครั้งกล้วยไม้ถูกลักลอบนำออกมาจากป่า ทำให้ประชากรในธรรมชาติลดลงอย่างน่าเป็นห่วง และบางชนิดใกล้สูญพันธุ์

 

 

นอกจากนี้กล้วยไม้ป่าจัดเป็นของป่าหวงห้ามตามพระราช บัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ด้วย ห้ามค้าทุกจำนวนหรืออนุญาติให้ครอบครองได้ไม่เกิน 20 ต้น
ดังนั้นการส่งออกกล้วยไม้ทุกชนิดต้องมาจากกล้วยไม้ที่ได้มาจากการผสมพันธุ์ เทียมเท่านั้น และจะต้องได้รับการขึ้นทะเบียนสถานที่เพาะเลี้ยงเพื่อการค้าจากกรม วิชาการเกษตร
การขยายพันธุ์พืชอนุรักษ์จะต้องมีองค์ประกอบดังต่อไปนี้
๏ ต้องคงจำนวนพ่อแม่พันธุ์
๏ พ่อ-แม่พันธุ์ที่ใช้ขยายพันธุ์ต้องได้มาโดยถูกต้องตามกฎหมาย
๏ ต้องควบคุมสภาวะแวดล้อมของโรงเรือน เช่นการใช้ปุ๋ย การพรางแสง การจำกัดศัตรูพืช ฯลฯ

การขยายพันธุ์เทียมกล้วยไม้ เป็นการส่งเสริมการใช้ประโยชน์พันธุกรรมพืชอย่างยั่งยืน และเป็นการอนุรักษ์กล้วยไม้ให้อยู่ตามธรรมชาติ เพื่ออนุชนรุ่นหลังสืบไป การเลือกซื้อกล้วยไม้เพื่องานอดิเรกหรือการค้า ควรเลือกซื้อเฉพาะตัวอย่างที่ได้มาจากการผสมพันธุ์เทียมเท่านั้น ควรละเว้นการซื้อขายกล้วยไม้ป่า หรือสภาพที่ได้มาจากป่า

ขอบคุณข้อมลจาก

 http://www.orchidtropical.com/v-denisoniana.php

Advertising Zone    Close
 
Online:  1
Visits:  18,782
Today:  6
PageView/Month:  71

ยังไม่ได้ลงทะเบียน

เว็บไซต์นี้ยังไม่ได้ลงทะเบียนยืนยันการเป็นเจ้าของเว็บไซต์กับ Siam2Web.com